เหอะ…มันก็แปลกดีนะ...
พอ “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับประเทศไทยก็มีเรื่องราวมากมายปรากฏ ล่าสุดก็ “ลิม กิมยา” อดีต สส.กัมพูชา ฝ่ายค้านคนสำคัญ ซึ่งอริหมายเลขต้นของ “ฮุน เซน” ผู้นำตัวจริงเสียงจริง
ซึ่งสนิทแนบแน่นกับผู้มีบารมีนอกรัฐบาลของไทยคือ “พ่อนายกฯ” ถูกยิงเสียชีวิตกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางความกังขาว่า
มันเป็นเหตุอาชญากรรมตามปกติหรือเป็น “ใบสั่ง” ข้ามประเทศกันแน่
แม้ล่าสุดสามารถจับกุมมือปืนรายนี้ได้ระหว่างหลบหนีที่พระตะบองดินแดนเขมรและกำลังไล่ล่าอีกคนซึ่งเป็นคนชี้เป้า
การที่ตำรวจไทยสามารถจับกุมได้ทำให้สามารถสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้เร็วขึ้นเพราะคดีสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสนใจ
ว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือเหตุอันใดแน่
แต่สม รังสี “หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน” ชี้ว่าเป็นฝีมือ “ฮุน เซน” แน่
นั่นแหละเป็นเรื่องที่ตำรวจไทยจะต้องทำความกระจ่างให้เร็วที่สุดมิฉะนั้นประเทศไทยจะเสียหายไปด้วยเพราะ “ทักษิณ-ฮุน เซน” นั้นสนิทสนมกันมาก
เพราะสงสัยกันว่าเป็น “ใบสั่งฆ่า” ข้ามประเทศ!
ประเทศไทยวันนี้มีข่าวเสียหายติดกัน ก่อนหน้านี้ดาราชายดังชาวจีนก็ถูกแก๊งจีนหลอกจีนใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นทางผ่านข้ามไปยังเมียนมาเพื่อกระทำผิดกฎหมาย
แต่ก็เคลียร์ไปแล้วดีขึ้นมาหน่อย...
พูดถึง “ทักษิณ” ก็มีประเด็นใหม่เข้ามาอีก เมื่อ “ประธาน กกต.” ได้เปิดเผยว่าการไปช่วยหาเสียงให้บรรดาผู้สมัครนายก อบจ.จังหวัดต่างๆในฐานะผู้ช่วยหาเสียง
กำลังเกิดปัญหา...
ว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่โดยเฉพาะที่กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่ก้ำกึ่งในลักษณะที่เข้าข่าย ซึ่ง กกต.กำลังไล่ตรวจสอบอยู่
...
การไปช่วยหาเสียงนั้นทำได้แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ กกต.ก็มีการตรวจสอบประเด็นการกระทำที่เข้าข่าย “ครอบงำ” พรรคการเมือง เบื้องต้นพบว่า “มีมูล” ซึ่งคณะกรรมการกำลังเร่งตรวจสอบเรื่องนี้อยู่
หากพบว่ามีความผิดก็จะยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่ามีความผิดหรือไม่ หากผิดจริงก็จะทำให้ “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทย หัวหน้าพรรค
ต้องรับโทษไปด้วย...
การช่วยหาเสียงที่วางโปรแกรมล่วงหน้าว่าจะเดินทางไปนั้นมีหลายจังหวัด ซึ่ง กกต.ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ฟังปราศรัยด้วย
หากคำปราศรัยจากสถานที่ต่างๆจะต้องถูกตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่
แม้ “ทักษิณ” ระยะหลังค่อนข้างจะระมัดระวังมากขึ้น
แต่เนื่องจากเป็นคนที่ชอบอวดเก่งเบ่งบารมีโอกาสที่จะพลาดพลั้งเสียทีได้เหมือนกัน
ยิ่งระยะหลังดูเหมือนจะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องในประเด็นล้มล้างการปกครองและครอบงำพรรคการเมือง
ทำให้แสดงความเหิมเกริมเหมือนกับว่า “เส้นดี” ทำอะไรก็ได้ไม่กลัวใคร
อันนี้แหละที่จะเกิดความผิดพลาดได้!
การที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มักจะมีความประมาทเข้ามาสิงสู่ใจจนทำให้กล้าที่จะทำอะไรตามใจตัวเองอย่างที่เคยทำมา
ครั้งก่อนรอดมาได้แต่ครั้งต่อไปก็ไม่แน่...
ประเทศไทยทุกวันนี้มีแต่เรื่องราวและความเป็นไปของตระกูลนี้ตลอดจนไม่มีช่องว่างให้กับเรื่องราวของประชาชนเลยก็ว่าได้
เสียงจากรัฐบาลก็มีคำประโลมใจว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้แต่ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันโดยเฉพาะเศรษฐกิจปากท้อง
วนอยู่กับเฟส 2 เฟส 3 ไม่มีอะไรใหม่เลยจริงๆ!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม